วิจัยในชั้นเรียน
ชื่อเรื่อง ส่งเสริมทักษะการระบายสี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล
2/2
ผู้วิจัย นางสาวรพีพรรณ กันหา
ตำแหน่ง ครูผู้สอน
สถานที่ โรงเรียนเคียวนำ ตำบลกำแพง
อำเภออุทุมพรรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ
สังกัด สำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
***********************************************************************************
ความเป็นมา
กิจกรรมสร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมหนึ่งใน 6 กิจกรรมที่ครูได้ใช้ดำเนินการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนและจากการจัดกิจกรรมนี้เอง
ครูผู้สอน พบว่า
ผู้เรียนกลุ่มหนึ่งมีทักษะพื้นฐานทางการระบายสีที่ดี แต่ยังมีกลุ่มหนึ่งที่พื้นฐานการระบายสียังไม่ดี
แต่ยังมีข้อควรปรับปรุงอีกเล็กน้อย ซึ่งครูผู้สอนได้เล็งเห็นว่า
หากมีการฝึกทักษะเป็นลำดับขั้นตอนอย่างถูกวิธี จะช่วยส่งผลให้นักเรียนมีทักษะที่ถูกต้อง มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น
ดังนั้นครูผู้สอนจึงมีความสนใจที่จะทำวิจัยในเรื่องนี้เพื่อช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นและเป็นพื้นฐานการเรียนวิชาศิลปะต่อไป
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนระบายสีได้ถูกต้องตามขั้นตอน
2. เพื่อให้นักเรียนระบายสีตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้
สมมติฐานของการวิจัย
นักเรียนกลุ่มที่ได้รับการฝึกมีทักษะการระบายสีหลังการฝึกสูงกว่าก่อนการฝึก
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักเรียนมีความสามารถในการระบายสีหลังฝึกสูงกว่าก่อนฝึก
2. นักเรียนระบายสีได้เรียบร้อย สวยงาม ตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ขอบเขตของการวิจัย
1. ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมทักษะการระบายสี โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์และแบบฝึกทักษะ
2. ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนอนุบาล 2/2 โรงเรียนเคียวนำ ตำบลกำแพง อำเภออุทุมพรรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556
วิธีดำเนินการวิจัย
1.กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาล 2/2 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 2 คน
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนระบายสีได้ถูกต้องตามขั้นตอน
2. เพื่อให้นักเรียนระบายสีตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้
สมมติฐานของการวิจัย
นักเรียนกลุ่มที่ได้รับการฝึกมีทักษะการระบายสีหลังการฝึกสูงกว่าก่อนการฝึก
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักเรียนมีความสามารถในการระบายสีหลังฝึกสูงกว่าก่อนฝึก
2. นักเรียนระบายสีได้เรียบร้อย สวยงาม ตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ขอบเขตของการวิจัย
1. ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมทักษะการระบายสี โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์และแบบฝึกทักษะ
2. ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนอนุบาล 2/2 โรงเรียนเคียวนำ ตำบลกำแพง อำเภออุทุมพรรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556
วิธีดำเนินการวิจัย
1.กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาล 2/2 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 2 คน
2. ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรต้น ได้แก่
แผนการจัดประสบการณ์และแบบฝึกทักษะ
ตัวแปรตาม ได้แก่ ความสามารถในการระบายสี
3.วิธีการนำไปใช้ ใช้ฝึก ช่วงเวลาพักเที่ยง 30 นาทีต่อครั้ง โดยใช้ใบงานที่ครูกำหนดและมีการวัดผลดังนี้
ตัวแปรตาม ได้แก่ ความสามารถในการระบายสี
3.วิธีการนำไปใช้ ใช้ฝึก ช่วงเวลาพักเที่ยง 30 นาทีต่อครั้ง โดยใช้ใบงานที่ครูกำหนดและมีการวัดผลดังนี้
3.1 ให้ระบายสีก่อนการใช้แบบฝึก 1 ครั้ง
3.2 ฝึกทักษะตามแบบฝึกที่กำหนดไว้และมีการตรวจผลงานเป็นระยะ ๆ
3.3 ให้ระบายสีหลังการฝึกทักษะ 1 ครั้ง
4. การเก็บรวบรวมข้อมูล
4.1 ข้อมูลที่เก็บ ได้แก่ ความสามารถในการระบายสี
4.2 วิธีการที่ใช้ คือ การตรวจผลงาน
4.3 เครื่องมือที่ใช้ คือ บันทึกผลการตรวจผลงาน
5.วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
5.1 เปรียบเทียบความสามารถในการระบายสีก่อนและหลังการฝึก
5.2 เปรียบเทียบความก้าวหน้าในการระบายสีเป็นระยะ ๆ ในระหว่างการฝึก
6. สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( X )
3.2 ฝึกทักษะตามแบบฝึกที่กำหนดไว้และมีการตรวจผลงานเป็นระยะ ๆ
3.3 ให้ระบายสีหลังการฝึกทักษะ 1 ครั้ง
4. การเก็บรวบรวมข้อมูล
4.1 ข้อมูลที่เก็บ ได้แก่ ความสามารถในการระบายสี
4.2 วิธีการที่ใช้ คือ การตรวจผลงาน
4.3 เครื่องมือที่ใช้ คือ บันทึกผลการตรวจผลงาน
5.วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
5.1 เปรียบเทียบความสามารถในการระบายสีก่อนและหลังการฝึก
5.2 เปรียบเทียบความก้าวหน้าในการระบายสีเป็นระยะ ๆ ในระหว่างการฝึก
6. สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( X )
7. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ดังแสดงในตาราง
7.1. คะแนนความสามารถในการระบายสีก่อนและหลังการฝึก
ตารางที่ 1 เปรียบเทียบความสามารถในการระบายสีของนักเรียน ชั้นอนุบาล 2/2
ก่อนและหลังการฝึก จำนวน 2 คน (คะแนนเต็ม 3 คะแนน)
7.1. คะแนนความสามารถในการระบายสีก่อนและหลังการฝึก
ตารางที่ 1 เปรียบเทียบความสามารถในการระบายสีของนักเรียน ชั้นอนุบาล 2/2
ก่อนและหลังการฝึก จำนวน 2 คน (คะแนนเต็ม 3 คะแนน)
ชื่อ-สกุล
|
คะแนนก่อนฝึก
|
คะแนนหลังฝึก
|
ความก้าวหน้า
|
เด็กชายธีระศักดิ์ ศรีลาชัย
|
1
|
3
|
1
|
เด็กหญิงปาณิศา ศรสุรินทร์
|
2
|
3
|
1
|
คะแนนรวม
|
3
|
6
|
2
|
คะแนนเฉลี่ย
|
1.50
|
3.0
|
1.0
|
จากตารางที่ 1 พบว่า
คะแนนเฉลี่ยก่อนฝึกของนักเรียนเท่ากับ 1.50
คะแนนเฉลี่ยหลังฝึกเท่ากับ 3.00 ดังนั้น นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย
= 3.00 – 1.50
= 1.50
แสดงว่า ภายหลังการใช้แบบฝึกทักษะการระบายสี นักเรียนมีความสามารถในการระบายสีดีขึ้น
= 1.50
แสดงว่า ภายหลังการใช้แบบฝึกทักษะการระบายสี นักเรียนมีความสามารถในการระบายสีดีขึ้น
7.2
คะแนนเฉลี่ยความก้าวหน้าในการระบายสี
ตารางที่ 2 ค่าสถิติพื้นฐานคะแนนความก้าวหน้าในการระบายสีของนักเรียนอนุบาล 2 จากการฝึก 5 ครั้ง
ตารางที่ 2 ค่าสถิติพื้นฐานคะแนนความก้าวหน้าในการระบายสีของนักเรียนอนุบาล 2 จากการฝึก 5 ครั้ง
รายการ
|
จำนวนนักเรียน
(N)
|
ค่าเฉลี่ย
(X)
|
ทดสอบก่อนฝึก
|
2
|
1.50
|
ทดสอบระหว่างฝึก
ครั่งที่ 1
|
2
|
1.50
|
ทดสอบระหว่างฝึก
ครั่งที่ 2
|
2
|
2.00
|
ทดสอบระหว่างฝึก
ครั่งที่ 3
|
2
|
2.00
|
ทดสอบหลังฝึก
|
2
|
3.00
|
จากตารางที่ 2 พบว่า
คะแนนความก้าวหน้าในการระบายสีของนักเรียนจากการใช้ภาพทดสอบ
5 ครั้ง เท่ากับ
1.50 , 1.50 , 2.00 , 2.00 และ 3.00 ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านักเรียนกลุ่มนี้มีความก้าวหน้าในการระบายสีสูงขึ้น
สรุปและอภิปรายผล
สรุปผล
ภายหลังการฝึกทักษะการระบายสีด้วยแบบฝึกทักษะที่ครูกำหนดขึ้น ซึ่งมีลำดับขั้นจากภาพ
ที่มีองค์ประกอบน้อยไปจนถึงภาพที่มีองค์ประกอบและรายละเอียดมาก ปรากฏว่า นักเรียนชั้นอนุบาล 2/2 ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2 คน มีทักษะการระบายสีที่ดีขึ้น
สรุปและอภิปรายผล
สรุปผล
ภายหลังการฝึกทักษะการระบายสีด้วยแบบฝึกทักษะที่ครูกำหนดขึ้น ซึ่งมีลำดับขั้นจากภาพ
ที่มีองค์ประกอบน้อยไปจนถึงภาพที่มีองค์ประกอบและรายละเอียดมาก ปรากฏว่า นักเรียนชั้นอนุบาล 2/2 ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2 คน มีทักษะการระบายสีที่ดีขึ้น
อภิปรายผล
จากผลการใช้แบบฝึกทักษะการระบายสี ปรากฏว่า นักเรียนมีความสามารถในการระบายสีดี
ขึ้น ซึ่งเมื่อพิจารณาความก้าวหน้าในการระบายสีของนักเรียน พบว่า นักเรียนมีพัฒนาการในการระบายสีดีขึ้นตามระยะเวลาและจำนวนกิจกรรมที่ฝึกและเมื่อสิ้นสุดการฝึกก็พบว่านักเรียนทั้ง 2 คน สามารถระบายสีได้ดีมาก สามารถกำหนดสีได้เหมาะสมกับภาพ ระบายสีได้อย่างสวยงาม มีจินตนาการและมีความคิดสร้างสรรค์ แสดงว่าแบบฝึกที่ครูกำหนดขึ้นประกอบกับการให้คำชี้แนะนักเรียนเป็นรายบุคคล ช่วยส่งเสริมทักษะการระบายสีของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสนอแนะ
1. ควรปรับใช้กิจกรรมนี้ฝึกเพิ่มเติมให้กับนักเรียนที่ยังขาดทักษะการระบายสี
2. ควรเผยแพร่ผลงานให้ครูคนอื่นได้นำไปทดลองใช้
จากผลการใช้แบบฝึกทักษะการระบายสี ปรากฏว่า นักเรียนมีความสามารถในการระบายสีดี
ขึ้น ซึ่งเมื่อพิจารณาความก้าวหน้าในการระบายสีของนักเรียน พบว่า นักเรียนมีพัฒนาการในการระบายสีดีขึ้นตามระยะเวลาและจำนวนกิจกรรมที่ฝึกและเมื่อสิ้นสุดการฝึกก็พบว่านักเรียนทั้ง 2 คน สามารถระบายสีได้ดีมาก สามารถกำหนดสีได้เหมาะสมกับภาพ ระบายสีได้อย่างสวยงาม มีจินตนาการและมีความคิดสร้างสรรค์ แสดงว่าแบบฝึกที่ครูกำหนดขึ้นประกอบกับการให้คำชี้แนะนักเรียนเป็นรายบุคคล ช่วยส่งเสริมทักษะการระบายสีของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสนอแนะ
1. ควรปรับใช้กิจกรรมนี้ฝึกเพิ่มเติมให้กับนักเรียนที่ยังขาดทักษะการระบายสี
2. ควรเผยแพร่ผลงานให้ครูคนอื่นได้นำไปทดลองใช้
วิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง ส่งเสริมทักษะการระบายสี สำหรับนักเรียน
เรื่อง ส่งเสริมทักษะการระบายสี สำหรับนักเรียน
ภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา
2556
ชั้นอนุบาล2/2
จัดทำโดย
นางสาวรพีพรรณ กันหา
ครูผู้สอน
โรงเรียนเคียวนำ
ตำบลกำแพง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ
สำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น